วันจันทร์ที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2555

ความแตกต่างระหว่างยางผ้าใบกับยางเรเดียล




ยางเรเดียล เป็น ยางรถยนต์มิได้เป็นแค่เพียงเบาะรองล้อ หากมีหน้าที่ที่ทำให้รถเกาะถนนที่ลื่นและต้องไม่ทำให้รถแฉลบไปมา เมือห้ามล้อหรือเลี้ยว ยางรถยนต์ทั่วไปมีลวดลายเรียกว่าดอกยาง(tyre threads) ดอกยาง ประกอบด้วยรอยบากเป็นช่องแคบๆ(sipes) และคดหยักเป็นรูปฟันปลา ทั้งนี้เพื่อช่วยซับน้ำที่ผิวถนนและปล่อยน้ำออกไปทางด้านหลังในขณะที่ล้อแล่นไปข้างหน้า เมื่อแล่นไปบนถนนที่เปียกแฉะ ยางต้องเคลื่อนย้าย น้ำออกมากกว่า 5ลิตร/วินาทีเพื่อให้รถเกาะถนนได้ดีพอ เมื่อรถแล่นไปบนถนนที่แห้งสนิท ดอกยางก็ไม่จำเป็น ยางเกลี้ยงทำให้ผิว หน้ายางสัมผัสกับถนนมากที่สุด แต่ถ้าใช้ยางเกลี้ยงในเวลามีฝน น้ำบน พื้นถนนจะรวมตัวเป็นผืนที่หน้าล้อและใต้ล้อเป็นเบาะรองล้อเอาไว้(aquaplaning) จนราวกับว่ารถแล่นไปบนผืนน้ำ เมื่อเป็นเช่นนี้ ผู้ขับขี่ย่อมบังคับรถไม่อยู่ รถส่วนใหญ่ต้องปฏิบัติงานในทุกสภาพอากาศ ยางจึงต้องมีดอก ต่างจากรถแข่งซึ่งออกวิ่งเพียงปีละไม่กี่ครั้ง ถ้าหากทางวิ่งแห้ง รถแข่งจะใช้ยางเกลี้ยง(slick)เพื่อให้เกาะถนนได้ดีที่สุด ล้อรถแข่งมีหน้ายางกว้างเป็นพิเศษทำให้เกาะถนนได้ดีกว่ารถธรรมดาทั่วไป แต่ในเวลาที่มีฝนตก รถแข่งก็ต้องเปลี่ยนจากยางเกลี้ยงเป็นยางมีดอก ยางผ้าใบกับยางเรเดียล แตกต่างกัน คือ ลักษณะโครงสร้าง ยางผ้าใบ ประกอบด้วย ผ้าใบที่นำมาเรียงซ้อนกันในลักษณะเฉียงไปมาหลายชั้น โดยหน้ายาง กับแก้มยางเป็นชิ้นเดียวกันตลอดทั้งเส้น ส่วนยางเรเดียล ประกอบด้วย โครงยางที่เป็นเส้นลวดชั้นเดียว และมีเข็มขัดรัดหน้ายางเพิ่มความแข็งแรง ในส่วนของหน้ายาง กับแก้มยาง อิสระจากกัน




ลักษณะการใช้งาน

ยางผ้าใบ โดยปกติเมื่อรถวิ่ง ยางจะมีการยืดหยุ่นของแก้มยางตลอดเวลา และเมื่อหน้ายางและแก้มยาง เป็นชิ้นเดียวกันทำให้เวลาใช้งานในขณะที่แก้มยางกดลงมาจะทำให้ตรงกลางของ หน้ายางยกตัวขึ้น และเมื่อแก้มยางยกตัวกลับก็จะทำให้หน้ายางด้านข้างทั้งสองด้านมีการยกลอย ขึ้น ซึ่งการยืดหดตัวของโครงยางดังที่อธิบายมานี้ ทำให้พื้นที่สัมผัสถนนของหน้ายางไม่สม่ำเสมอและไม่เต็มหน้ายาง การยึดเกาะก็จะน้อยลงไปด้วยทำให้ความปลอดภัยก็จะลดลง และยางจะสึกหรอเร็วเพราะเกิดความร้อนได้ง่ายจากการที่ต้องยืดและหดตัวไปมา ตลอดเวลา

ยางเรเดียล จากการที่แก้มยางกับหน้ายาง อิสระจากกันทำให้เวลาวิ่งพื้นที่หน้ายางสัมผัสกับถนนได้เต็มที่กว่า ทำให้การยึดเกาะของยางทำได้ดีกว่า และการที่หน้ายางยืดหดตัวน้อยกว่าทำให้สึกหรอช้ากว่า และด้วยเข็มขัดรัดหน้ายางก็ทำให้ปัญหาการโดนบาดตำหน้ายางลดลงด้วย

ดัง นั้น ยางเรเดียลจึงมีประสิทธิ์ภาพในการใช้งานที่ดีกว่า ถึงแม้นว่าราคต่อเส้นจะแพงกว่า แต่เมื่อคิดออกมาเป็นบาทต่อกิโลเมตรที่วิ่ง ก็จะเห็นได้ว่ายางเรเดียลนั้นคุ้มค่ามากกว่าครับ

ที่มา : chanachai from MeSutStudent.com


ยางผ้าใบ
ทนทานต่อการสึกหรอใด้ต่ำโดยเฉพาะเมื่ออุณภูมิสูง กระจายแรงกดใด้ไม่สม่ำเสมอ ความนุ่มนวลในการขับขี่ต่ำเพราะแก้มยางยืดหยุ่นตัวใด้น้อย ก่อให้เกิดร่องรอยกรณีที่ผิวทางใม่แข็งแรงเพียงพอ แรงต้านทานการหมุนสูงทำให้สิ้นเปลืองน้ำมัน เกิดความร้อนสะสมในยางสูง เกิดรูพรุนใด้ง่ายจากการกระจายแรงกดใด้ไม่เท่ากัน

ยางเรดียล

ลดความเสี่ยงของยางทะลุ เนื่องจากแรงกดที่ถนนน้อยกว่า อายุการใช้งานยาวนานกว่า ความร้ัอนสะสมสน้อยกว่า ทรงตัวในขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูงใด้ดีกว่า ความหยืดหยุ่นสูงกว่า ควบคุมบังคับใด้ดีกว่า ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ระยะเบรคสั้นกว่า ความนุ่มนวลในการขับขี่สูงเพราะยางเรเดียลหยืดหยุ่นสูงกว่า
ที่มา : truck2hand.com